น้ำมันมะพร้าวกับ MCT Oil?

(ยาวไปไม่อ่าน ไม่จำเป็นต้องทาน MCT Oil ถ้าไม่ใช่นักวิ่งหมื่นลี้หรือมนุษย์กล้ามเข้ายิม 24 ชม และน้ำมันมะพร้าวกับ MCT Oil ก็ไม่ใช้ตัวเดียวกันซะทีเดียว — ก่อนจะทานอะไรตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าต้องการกินไปเพื่ออะไร?)

เคยได้ยินสองคำนี้ไหมครับ ส่วนใหญ่น่าจะได้ยินแบบมันมาพร้อมๆกัน เช่น กินน้ำมันมะพร้าวดีนะ เป็น MCT Oil ไม่อ้วน เป็นไขมันดีบ้างอะไรบ้าง

จริงๆแล้ว MCT Oil นี่แบ่งออกเป็น 4 ชนิดนะครับ คือ 

C-6 Caproic acid , 
C-8 Caprylic acid , 
C-10 Capric acid 
และ C-12 Lauric Acid (? – งานวิจัยส่วนใหญ่จะไม่นับเป็น MCT)

โดยมีความหมายถึงจำนวนคาร์บอนในอนุภาคของกรดไขมัน นั่นจึงเป็นที่มาของ MCT หรือ Medium Chain Triglycerides แปลภาษาไทยก็ราวๆ ไตรกลีเซอไรด์พันธะกลาง

คราวนี้หลายคนก็จะงงว่าทำไมหลายคนที่ทานคีโตแนะนำให้ทาน MCT Oil หรือน้ำมันมะพร้าว บ้างก็บอกจะทำให้เราเข้าสู่คีโตสิสเร็วขึ้น

ซึ่งก็จริงบางส่วนนะครับ โดยปกติแล้ว MCT โดยเฉพาะตัว C-6, C-8, C-10 นั้นจะมีลักษณะเด่นคือมันจะสามารถผ่านระบบการย่อยปกติแล้วไปที่ตับได้โดยตรง ทำให้เปลี่ยนเป็น Ketone ได้ทันที (งานวิจัยส่วนใหญ่จะจัด C-12 หรือมากกว่าเป็น LCT หรือ Long Chain Triglycerides) [1]

พอระดับ Ketone มากขึ้นสิ่งที่ตามก็คือเราก็เข้าสู่ภาวะ Ketosis หรือ keto-state ก็คือภาวะที่ร่างกายมีระดับ Ketone มากกว่าปกตินะครับ

แต่มันก็ไม่ใช่ว่าร่างกายจะเผาผลาญไขมันมากขึ้นนะครับ มันไม่เกี่ยวกัน ต่างกับการที่เราทานคีโต ที่ร่างกายต้องเริ่มมาจากการเผาผลาญไขมันทั้งจากที่เราทานและที่เราสะสมมาเป็นคีโตน

แล้วคราวนี้ก็จะกลับมาที่ การทานน้ำมันมะพร้าว กับ MCT นี่เหมือนกันหรือไม่
คำตอบคือไม่นะครับ 
โดยปกติน้ำมันมะพร้าวจะมีสัดส่วนประมาณนี้ [2]
C-12 45%
C-10 7%
C-8 6%
ที่เหลือเป็น LCT หรือ Saturated Fat นี่เอง

เพราะฉะนั้นการทาน MCT oil และ การทานน้ำมันมะพร้าวจะว่าคล้ายกันก็ได้ แต่ก็ไม่เหมือนซะทีเดียว เพราะว่าราวๆ 13% ของไขมันน้ำมันมะพร้าวจะเป็น “MCT Oil” นอกจากนี้ MCT oil ตามท้องตลอดก็ต้องดูว่าเป็นประเภทไหน C-6 / C-8 หรือ C-10 หรือบางเจ้างงหน่อยก็จะเติม C-12 เข้าไปเยอะๆ

แต่ก็เพราะว่า C-12 นั้นยังดีมากกว่า C-14 C-16 หรือ LCT ตัวอื่นๆ เพราะงานวิจัยพบว่ายิ่งมีเพิ่มคู่หรือ 2C เมื่อไร จะทำให้การดูดซึมช้าลงไปถึง 100 เท่า

ทำให้ผมแนะนำว่าเวลาทำอาหารใช้น้ำมันมะพร้าว (50% C-12) ทำจะดีมาก หรือไม่ก็น้ำมันมะกอก (Mono-unsaturated Fat) โดยที่คุณไม่ต้องไปหารุ่นเทพหีบเย็นมานะครับ เพราะว่าเราเอามาทำอาหารให้ความร้อน โดยพวกที่จะใช้จะเป็นพวก Cooking / Refined สังเกตได้จากป้ายราคาครับ มันจะถูกกว่าญาติๆมันมาก

แล้วเราทาน MCT oil ไปเพื่ออะไร [3]

ก็เพราะว่า C-6 C-8 C-10 มันสามารถที่จะไปที่ตับได้โดยตรงทำให้มันสามารถที่จะแปลงเป็น Ketone และเป็นพลังงานได้ทันที นั่นก็หมายความว่าหากคุณต้องการพลังงานอย่างเร่งด่วน เช่น เป็นนักวิ่งมาราธอน ออกกำลังกายหนัก การทานแบบนี้ก็อาจจะช่วยคุณได้

แต่ถ้าคุณเป็นพวกนั่งโต๊ะพิมพ์งานเหมือนกับผม มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่จะไปทาน
โดยเฉพาะพวกกาแฟผสม MCT oil ก็ทานกาแฟเปล่านี่แหละครับ เวลาร่างกายจะใช้พลังงานมันก็จะไปย่อยจากไขมันสะสมในร่างกายของเราเอง

ไม่ใช่สายน้ำมันมะพร้าวแต่อยากได้ MCT?

ก็สามารถที่จะทานจะพวกผลิตภัณฑ์นม (เนย ชีส) ของ แพะ วัว แกะ ได้โดย เป็น C6-10 ประมาณ 4-12% และ C12 2-5%

เกร็ดเล็กน้อย capra เป็นคำลาติน [Prefix ของ C-6, C-8, C-10] แปลว่าแพะ

ใครชอบนะลองไปหาชีสนมแพะมาทานก็ได้นะครับ อร่อยด้วย

[Source]
[1]“The high ketogenicity of C8 and C10 further reflects the fact that, as they are poorly incorporated into chylomicrons but are relatively soluble, they tend to enter the portal circulation directly after absorption (as opposed to the lymphatics) and hence have rapid access to the liver.”
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4975867/
[2]https://nutritionreview.org/…/medium-chain-triglycerides-m…/ 
[3]https://www.healthline.com/nutrition/mct-oil-101

Leave a Comment