ในภาวการณ์ปัจจุบันที่โควิด-19 กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลกและพื้นที่ต่างๆ ทำให้เกิดการห้ามเดินทาง และการกักตัว มันเป็นการดีหากเราจะสามารถป้องกันตัวในสภานการณ์ในภายภาคหน้าที่เราอาจจะคาดไม่ถึงในวันและสัปดาห์ข้างหน้า บางคนอาจจะกักตัว 2 สัปดาห์เป็นต้น
ในรายการทีวี พบผู้คนกักตุนอาหารแห้ง ข้าว พาสต้า มาม่า ถั่วแห้ง และอื่นๆ รวมถึงอาหารที่มีคาร์บสูงต่างๆ
แล้วถ้าคุณทานโลว์คาร์บ คุณจะรับมืออย่างไร อาหารประเภทไหนที่คุณควรหาเก็บไว้ในชั้น ตู้เย็นและช่องแข็ง
และต่อไปนี้ก็คือ 6 วิธี เตรียมรับมือ COVID-19 สำหรับคนทานคีโต หรือทานโลว์คาร์บ
*หมายเหตุ: นี่เป็นคำแนะนำภายในประเทศสหรัฐอเมริกา ในส่วนของประเทศไทยปัจจุบัน 18/3/63 รัฐบาลยังไม่มีนโยบายการกักตัวของคนในประเทศ รวมถึงยังไม่มีนโยบายเรื่องการตุนสินค้าต่างๆ
1. พยายามอยู่ห่างจากสังคม (แปลอาจจะผิดนะ) Social Distancing
อย่ารอที่จะให้รัฐบาลหรือหน่วยงานด้านสุขภาพเป็นคนห้ามการเดินทางและการกักตัว เราอาจจะเริ่มเพื่อช่วยในการหยุดการแพร่เชื่อและทำให้กราฟการเติบโตของคนที่ติดให้ดีขึ้น
- พยายามรักษาความสะอาด เช่น ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือการใช้เจลล้างมือ
- อย่าจับหน้าตัวเองบ่อย
- หลีกเลี่ยงที่ชุมนุมมาก
- เดินทางเฉพาะที่สำคัญ
- พยายามอยู่ห่างคนอื่น 1 เมตร
- อยู่บ้านหากมีอาการป่วย
- หากสามารถทำได้ ควรเริ่มทำงานที่บ้าน
- หลีกเลี่ยงการเดินทางโดยระบบสาธารณะ การเดินอาจจะปล่อยภัยกว่า
- อาจจะกักตัวเอง หากคุณพึ่งเดินทางหรือคุณมีความเสี่ยงในการได้รับเชื้อ
หากประเทศคุณหรือบริเวณที่คุณอยู่อาศัยเริ่มการติดเชื้อ โควิท-19 ที่ยืนยันแล้ว ให้คุณคาดเดาว่าเชื้อนี้อาจจะกระจายในบริเวณนี้ซักระยะหนึ่งแล้ว
การทีอยู่ห่างสังคม หรือ Social Distancing นั้นจะช่วยให้กราฟการเติบโตของคนติดเชื้อลดลง ซึ่งจะช่วยให้ลดความหนาแน่นของโรงพยาบาล ทำใหโรงพยาบาลมีกำลังเพียงพอในการรองรับผู้ป่วยหนัก แทนที่จะรองรับแค่คนป่วยโควิท-19
2. เก็บอาหารโลว์คาร์บไว้ในตู้เย็นของคุณ
เพราะว่าโรคระบาดแบบโควิด-19 นั้นมีโอกาสน้อยมากที่จะทำให้ระบบไฟฟ้าต่างๆหยุดชะงัก รวมถึงสาธารณูปโภคต่างๆ หยุด นั่นก็แสดงว่าคุณสามารถที่จะเก็บอาหารในตู้เย็นและตู้แช่ ในขณะที่คุณกักตัวเอง หรือหากต้องกักตัว 14 วันเมื่อมีอาการ
อาหารอะไรบ้างที่น่าจะเก็บไว้
- ไข่ ไข่สามารถที่จะอยู่ในตู้เย็นได้นานถึง 5 สัปดาห์
- ครีม ครีมข้น เฮฟวี่ครีม วิปครีม
- ชีส ชีสต่างเก็บในตู้เย็นได้ยาวนานมากๆ
- ผักที่เก็บได้นาน – พวกสลัดและผักใบควรใช้ให้หมดเร็ว ในขณะที่ คะน้า แตงกวา บลอคโคลี่ กะหล่ำดอก ก้านขึ้นช่ายฝรั่ง สามารถที่จะเก็บได้นานหากเก็บไว้ในช่องผัก
- เนื้อและปลา
- เนย
หากอาหารเหล่านี้มีอายุที่ไม่ยาวนานเช่นเนื้อสดต่างๆ สามารถที่จะบรรจุลงในถุงขนาดเล็กแล้วเก็บไว้ในช่องแช่แข็งเพื่อยืดอายุการเก็บรักษาได้
3. ตุนอาหารในช่องแช่แข็ง
- เก็บพวกผักต่างๆที่ปรุงสุกแล้ว เช่น บล้อคโคลี่ ดอกกะหล่ำ เห็ด รวมถึงการซื้อผักแช่แข็งมาเลย พวกผักโขม บล้อคโคลี่เป็นต้น (แมคโครมีขาย)
- เนื้อสัตว์ เนื้อสัตว์ต่างๆทุกชนิด สามารถที่จะเก็บในช่องแข็งได้นานถึง 3 ปี หากไม่อยากจะซื้อเนื้อสดมาเก็บเอง ก็ลองซื้อเนื้อแช่แข็งมาเลย (แมคโครมีขายอีก วันก่อนได้ไก่มา 2 กิโล 132 บาท ส่วนน่องติดสะโพกได้มา 11 น่องมั้งครับ แล้วผมก็ละลายน้ำแข็งแล้วเอามาแบ่งใส่ถุงซิปล้อคที่ทนความเย็นแยกไว้อย่างละ 2-3 น่องเวลาเรามาทำอาหารก็ค่อยหยิบออกมาทีละนิด)
- ชีส คุณสามารถแช่แข็งชีสได้เกือบทุกชนิดเลย อาจจะแช่โดยการแบ่งเป็นส่วนๆเอา โดยการห่อกระดาษไข และก็ใส่ในถุงซิปล้อค แบบแบ่งเป็นสำหรับแต่ละอาทิตย์เป็นต้น เวลาใช้ก็แค่เอามาแช่ช่องเย็นข้ามคืน
- ครีม ครีมต่างๆก็แช่ได้ว่าเวลาละลายออกมาอาจจะเป็นหยาบๆแปลกเพราะโปรตีนนมเสื่อมสภาพ แต่ก็ยังทานได้
- ไข่ คุณสามารถแช่ไข่ได้ (แอดไม่เคยรู้เหมือนกัน) วิธีการคือการตอกไข่ให้ โดยการแยกไข่แดงและไข่ขาว โดยต้องห่ออย่างดีและเก็ยในถุงที่อากาศไม่เข้า ซึ่งมันอาจจะอยู่ได้เป็นปีเลย
เพื่อที่จะง่ายต่อการใช้ คุณควรแบ่งอาหารต่างๆเป็นถุงไว้ เวลาใช้จะง่ายและไม่ทำให้เราต้องละลายน้ำแข็งบ่อย (เพราะการที่ Freeze-thaw-freeze-thaw บ่อยๆ จะทำให้ของสามารถเสียได้เช่นกันและรสสัมผัสจะแย่ลงเรื่อยๆ)
4. ตุนอาหารในชั้น (นอกตู้เย็น)
- อาหารกระป๋อง – พวกปลากระป๋องต่างๆ มะเขือเทศกระป๋อง เห็ดกระป๋อง ข้าวโพดอ่อนกระป๋อง พริกหยวกกระป๋อง ปลาทูน่าประป๋อง (ลองพิจารณาเลือกดูเอานะครับ พวกผักกาดดองกระป๋องก็อาจจะมีบางยี่ห้อได้ เช่นเดียวกับปลากระป๋อง)
- แป้งคีโตต่างๆ เช่น แป้งมะพร้าว แป้งอัลมอนด์
- ไซเลี่ยมฮัสค์ – ใช้ในการทำให้ตัวน้ำแป้งข้นขึ้นเวลาทำขนมคีโต
- เมล็ดเจี่ย – ชงดื่มทั้งวันก็ได้ เหมือนไดเอ็ทไปอีกแบบ (แต่ต้องเสริมเกลือแร่นะครับ – โปรตีน)
- ถั่วต่างๆ พวกถั่วเปลือกแข็งจะอยู่ในนาน เช่นแมคคาเดเมีย อัลมอนด์ ยิ่งแบบยังไม่อบจะยิ่งอยู่นานครับ
- เนื้อแห้งต่างๆ Jerky (เมืองไทยไม่ค่อยมี)
- อาหารแห้งแบบอื่นๆ เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันปรุงอาหาร เกลือ พริกไทย เครื่องเทศ หัวหอม และกระเทียม
5. พยายามดูวันหมดอายุและคอยเช็คดีดี
- เพราะว่าคุณจะซื้ออาหารเข้ามาทีละเยอะๆ พร้อมกัน ทำให้เราต้องดูวันหมดอายุให้ดีๆ เพื่อที่จะไม่เกิดการเสียของโดยใช่เหตุ
- วิธีการหนึงคือการทำเป็นใบตารางเช็ควันหมดอายุของอาหารต่างๆ
- อีกวิธีการง่ายๆ คือหากตู้แช่แข็งคุณมีช่อง ก็โยนทุกอย่างได้หมดเลยครับ
6. ดูว่ามีของส่วนตัวจำเป็นให้พอเพียง
- ยาประจำตัว
- อาหารของสัตว์เลี้ยง หรือของจำเป็นของสัตว์
- ชา กาแฟ
- ยาสีฟัน แชมพู พวกสบู่ต่างๆ
- ผงซักฟอก สบู่ล้างจาน สบู่ล้างมือ เจลล้างมือ (หากคุณหาได้)
- ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น (จริงๆทุกบ้านควรมีมาตั้งนานแล้วนะครับ พวกยาล้างแผล พลาสเตอร์ปิดแผล เป็นต้น)